top of page

ศาสนาอิสลาม

 

       อิสลาม หรือ ศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาสำคัญศาสนาหนึ่งของโลก มีคนนับถือประมาณ 1,600 ล้านคน นับว่ามีจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับสองในโลก พื้นที่รวมของกลุ่มประเทศมุสลิมทั้งหมดประมาณ 34,722,286 ตารางกิโลเมตร ตั้งแต่ลองจุจุด141 องศาตะวันออก ทางด้านตะวันออกของเขตพรมแดนประเทศอินโดนิเซียทอดยาวไปจนถึงลองจิจูด 17.29 องศาตะวันตก ณ กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล (Senegal) ซึ่งอยู่ในภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกาจนถึงละติจุด 55.26 องศาเหนือ บริเวณเส้นเขตแดนตอนเหนือของประเทศคาซัตสถาน ทอดยาวเรื่อยไปจนถึงเส้นเขตแดนทางตอนใต้ของ ประเทศแทนซาเนียที่ละติจูด 11.44 องศาใต้

 

ในโลกของเรานี้มีจำนวนประเทศกว่า 200 ประเทศ เป็นประเทศมุสลิมกว่า 67 ประเทศ ในประเทศไทยมีศาสนาอิสลามเข้ามาตั้งแต่สมัยสุโขทัย 

 

 

       ศาสนาอิสลาม คือ ความศรัทธา ข้อบัญญัติเกี่ยวกับการปฏิบัติและจริยธรรม ซึ่งบรรดาศาสดา ที่อัลลอฮฺได้ประทานลงมาเป็นผู้นำ เพื่อมาสั่งสอนและแนะนำแก่มวลมนุษยชาติ สิ่งทั้งหมดเหล่านี้เรียกว่า ดีน หรือ ศาสนา นั่นเอง ผู้ที่มีความศรัทธาจะตระหนักอยู่เสมอว่า ชีวิตของเขาได้พันธนาการเข้ากับอำนาจสูงสุดของพระผู้ทรงสร้างโลก ในทุกสถานภาพของเขาจะรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า และมอบหมายตนเองให้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของพระองค์ตลอดเวลา เขาเป็นผู้มีจิตใจมั่นคงและมีสมาธิเสมอ

 

What Is Islam ?

ความหมายของ อิสลาม

 

       อิสลาม เป็นคำภาษาอาหรับ (ภาษาอาหรับ: الإسلام) แปลว่า การสวามิภักดิ์ ซึ่งหมายถึงการสวามิภักดิ์อย่างบริบูรณ์แด่ อัลลอฮฺพระผู้เป็นเจ้า ด้วยการปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์ อิสลาม มีรากศัพท์มาจากคำว่า อัส-สิลมฺ หมายถึง สันติ โดยนัยว่าการสวามิภักดิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้าจะทำให้มนุษย์ได้พบกับสันติภาพทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ศาสนาอิสลามเป็นศาสนามนุษยชาติตลอดกาล ตั้งแต่แรกเริ่มของการกำเนิดของมนุษย์จนถึงปัจจุบันและอนาคต

บรรดาศาสนทูตในอดีตล้วนแต่ได้รับมอบหมายให้สอนศาสนาอิสลามแก่มนุษยชาติ ศาสนทูตท่านสุดท้ายคือมุฮัมมัด บุตรของอัลดุลลอฮฺ บุตรของอับดุลมุฏ็อลลิบ จากเผ่ากุเรชแห่งอารเบีย ได้รับมอบหมายให้เผยแผ่สาส์นของอัลลอหฺในช่วงปี ค.ศ. 610 - 632 เฉกเช่นบรรพศาสดาในอดีต โดยมี มะลักญิบรีลเป็นสื่อระหว่างอัลลอฮฺพระผู้เป็นเจ้าและมุฮัมมัด

พระโองการแห่งพระผู้เป็นเจ้าที่ทะยอยลงมาในเวลา 23 ปี ได้รับการรวบรวมขึ้นเป็นเล่มมีชื่อว่า อัล-กุรอานซึ่งเป็นธรรมนูญแห่งชีวิตมนุษย์ เพื่อที่จะได้ครองตนบนโลกนี้อย่างถูกต้องก่อนกลับคืนสู่พระผู้เป็นเจ้า

สาส์นแห่งอิสลามที่ถูกส่งมาให้แก่มนุษย์ทั้งมวลมีจุดประสงค์หลัก 3 ประการคือ

 

  1. เป็นอุดมการณ์ที่สอนมนุษย์ให้ศรัทธาในอัลลอฮฺ พระผู้เป็นเจ้าเพียงพระองค์เดียว ที่สมควรแก่การเคารพบูชาและภักดี ศรัทธาในความยุติธรรมของพระองค์ ศรัทธาในพระโองการแห่งพระองค์ ศรัทธาในวันปรโลก วันซึ่งมนุษย์ฟื้นคืนชีพอีกครั้งเพื่อรับการพิพากษา และรับผลตอบแทนของความดีความชั่วที่ตนได้ปฏิบัติไปในโลกนี้ มั่นใจและไว้วางใจต่อพระองค์ เพราะพระองค์คือที่พึ่งพาของทุกสรรพสิ่ง มนุษย์จะต้องไม่สิ้นหวังในความเมตตาของพระองค์ และพระองค์คือปฐมเหตุแห่งคุณงามความดีทั้งปวง

  2. เป็นธรรมนูญสำหรับมนุษย์ เพื่อให้เกิดความสงบสุขในชีวิตส่วนตัว และสังคม เป็นธรรมนูญที่ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าในด้านการปกครอง เศรษฐกิจ  หรือนิตอศาสตร์อิสลามสั่งสอนให้มนุษย์อยู่กันด้วยความเป็นมิตร ละเว้นการรบราฆ่าฟัน การทะเลาะเบาะแว้ง การละเมิดและรุกรานสิทธิของผู้อื่น ไม่ลักขโมย ฉ้อฉล หลอกลวง ไม่ผิดประเวณีหรือทำอนาจาร ไม่ดื่มของมึนเมาหรือรับประทานสิ่งที่เป็นโทษต่อร่างกายและจิตใจ ไม่บ่อนทำลายสังคมแม้ว่าในรูปแบบใดก็ตาม

  3. เป็นจริยธรรมอันสูงส่งเพื่อการครองตนอย่างมีเกียรติ เน้นความอดกลั้น ความซื่อสัตย์ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความเมตตากรุณา ความกตัญญูกตเวที ความสะอาดของกายและใจ ความกล้าหาญ การให้อภัย ความเท่าเทียมและความเสมอภาคระหว่างมนุษย์ การเคารพสิทธิของผู้อื่น สั่งสอนให้ละเว้นความตระหนี่ถี่เหนียว ความอิจฉาริษยา การติฉินนินทา ความเขลาและความขลาดกลัว การทรยศและอกตัญญู การล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อิสลามเป็นศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าที่เป็นทางนำในการดำรงชีวิตทุกด้าน แก่มนุษย์ทุกคน ไม่ยกเว้น อายุ เพศเผ่าพันธ์ วรรณะหรือฐานันดร

Who is Allah ?
พระองค์ทรงเป็นผู้สร้าง

พระองค์ทรงเป็นผู้สร้าง

พระองค์ทรงกำลังควบคุมมันอยู่

พระองค์ทรงกำลังควบคุมมันอยู่

พระองค์คือผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง

พระองค์คือผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง

นี่ก็คือสิ่งถูกสร้าง

นี่ก็คือสิ่งถูกสร้าง

พระองค์ทรงมีเจตนาให้มันเกิดขึ้น

พระองค์ทรงมีเจตนาให้มันเกิดขึ้น

พระองค์ทรงเฝ้าดูมันอยู่

พระองค์ทรงเฝ้าดูมันอยู่

 

          อัลลอฮ์ผู้ทรงเอกะ 

       บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน ผู้ทรงแต่งตั้งมาลาอิกะฮให้เป็นผู้นำข่าว ผู้มีปีกสอง สาม  และสี่ พระองค์ผู้ทรงเพิ่มในการสร้างตามที่พระองค์ทรงประสงค์ แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอนุภาพเหนือทุกสิ่ง

          สิ่งใดที่อัลลอฮฺทรงประทานให้จากความเมตตา ความโปรดปราน  วิชาความรู้  อำนาจ  และปัจจัยยังชีพแก่มวลมนุษย์หรือชนชาติใด    ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะยับยั้งมันได้    และสิ่งใดที่พระองค์ทรงยับยั้งมันไว้  ก็ไม่มีผู้ใดที่สามารถที่จะให้มันได้ แท้จริงอัลลอฮฺคือพระผู้ทรงกรรมสิทธิ์ พระผู้ทรงประทานให้ พระผู้ทรงยับยั้ง พระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ  ผู้ทรงปรีชาญาณ

       โอ้หมู่ชนของฉันเอ๋ย!  พวกท่านจงรำลึกถึงความโปรดปรานของอัลลอฮที่มีต่อพวกท่าน จะมีพระผู้สร้างอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺกระนั้นหรือที่จะประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกท่านจากฟากฟ้า  และแผ่นดิน  ? ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เที่ยงแท้นอกจากอัลลอฮฺ  ดังนั้นทำไมเล่าพวกท่านจึงถูกหลอกลวงให้ห่างออกไปจากความจริง?

         ฉันรู้สึกเสียใจที่พวกท่านได้ปฏิเสธสารอิสลาม ที่ฉันได้ประกาศเชิญชวนพวกท่านให้กลับมานับถือศาสนาอิสลาม  ซึ่งเป็นสัจธรรมมาจากอัลลอฮฺพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก แต่ทว่าอัลลอฮทรงปลอบใจท่านมุฮัมมัดศาสนทูตท่านสุดท้ายของพระองค์  และบรรดาผู้เผยแผ่ศาสนาอิสลาม    ซึ่งเป็นบรรดาผู้ที่สานงานของท่าน พระองค์ตรัสว่า:

“และหากพวกเขาปฏิเสธเจ้า แน่นอน บรรดาศาสนทูตก่อนหน้าเจ้าก็ได้ถูกปฏิเสธมาก่อนแล้วและการงานทั้งหลายย่อมถูกนำกลับไปหาอัลลอฮฺ”

          โอ้หมู่ชนของฉันเอ๋ย! แท้จริงสัญญาของอัลลอฮฺนั้นเป็นจริงเสมอ   ดังนั้นอย่าให้การดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ล่อลวงพวกท่าน และอย่าให้การหลอกล่อของชัยฏอน(มารร้าย)มาล่อลวงพวกท่านเกี่ยวกับอัลลอฮฺเป็นอันขาด แท้จริง มาชัยฏอนนั้นเป็นศัตรูกับพวกเราทุกคน  ดังนั้นพวกเราต้องถือว่ามันเป็นศัตรู แท้จริงมันเรียกร้องพลพรรคของมันเพื่อให้พวกมันเป็นสหายแห่งไฟลุกโชติช่วง.

          บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺนั้น  สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันสาหัส  ส่วนบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย    สำหรับพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษและรางวัลอันยิ่งใหญ่  ผู้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ที่ความชั่วแห่งการงานของเขาได้ถูกทำให้เพริศแพร้วแก่เขา  ซึ่งชัยฏอนมารร้ายได้หลอกเขาแล้วเขาเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ดี  และผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺที่พระองค์ทรงให้เขามองเห็นว่า การเคารพสักการะเจว็ดนั้นเป็นสิ่งที่หลงผิดและงมงายแล้วเขาจึงหลีกเลี่ยงห่างไกลออก จากบรรดาเจว็ด  และเขาจะไม่เคารพสักการะอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ  ดังนั้นบุคคลทั้งสองประเภทนั้นจะเท่าเทียมกันละหรือ ?

          แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงทำให้หลงผิดแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์  และจะทรงชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์   ดังนั้น อัลลอฮฺทรงได้ปลอบใจท่านมุฮัมมัดศาสนทูตของพระองค์ และทรงให้กำลังใจแก่ผู้เผยแผ่ศาสนาอิสลามว่า 

“เจ้าอย่าทำให้จิตใจของเจ้ากลับกลายเป็นระทมทุกข์เนื่องด้วยพวกเขา แท้จริง อัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ”

          อัลลอฮฺคือพระเจ้า  ผู้ทรงส่งลมทั้งหลายออกไปและมันได้หอบเป็นเมฆขึ้นพระองค์ทรงได้ให้มันพัดพาไปยังดินแดนที่แห้งแล้ง   แล้งพระองค์ทรงได้ให้แผ่นดินมีชีวิตชุ่มชื่นด้วยน้ำฝน  หลังจากการแห้งแล้งของมันเช่นนั้นแหละการฟื้นคืนชีพ 

ผู้ใดต้องการอำนาจ จงขอต่อพระองค์โดยตรง เพราะอำนาจทั้งปวงนั้นเป็นสิทธ์ของอัลลอฮฺองค์เดียว  คำกล่าวที่ดีย่อมจะขึ้นไปสู่พระองค์ และการงานที่ดีนั้นพระองค์ทรงยกย่องสรรเสริญมัน  และบรรดาผู้วางแผนชั่วร้ายทั้งหลายนั้น   พวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบ  และแผนการของชนเหล่านั้นย่อมพินาศ

          อัลลอฮคือพระเจ้า  ผู้ทรงบังเกิดมนุษย์คนแรกมาจากฝุ่นดินแล้วก็ทรงบังเกิดพวกเรามาจากเชื้ออสุจิ   แล้วทรงทำให้เราเป็นคู่สามีภรรยา และจะไม่มีหญิงใดตั้งครรภ์และนางจะไม่คลอดเว้นแต่ด้วยความรอบรู้ของพระองค์ และจะไม่มีผู้สูงอายุคนใดจะถูกยืดอายุออกไป  และอายุของเขาก็จะไม่ถูกตัดทอน  เว้นแต่อยู่ในบันทึกของพระองค์แท้จริง  นั่นเป็นการง่ายดายสำหรับอัลลอฮฺ    
 
น้ำในแม่น้ำและน้ำทะเลทั้งสองนั้นไม่เหมือนกัน   อันนี้จืดสนิทอร่อยน่าดื่ม ดื่มแล้วคล่องคอ   แต่อีกอันหนึ่งเค็มจัด  และแต่ละทุกแห่งนั้นพวกเราจะได้กินเนื้ออันอ่อนนุ่ม และที่พวกเราเอาออกมาจากน้ำทั้งสองนั้นเป็นเครื่องประดับ เพื่อใช้เป็นอาภรณ์  และเราเห็นเรือแล่นฝ่าผิวน้ำไป  เพื่อพวกเราจะได้แสวงหาความโปรดปรานของพระองค์  และเพื่อพวกเราจะได้ขอบคุณต่ออัลลอฮ พระผู้เป็นเจ้า  และพระผู้ทรงกรุณาปรานี

          อัลลอฮ์ คือพระเจ้า ผู้ทรงให้กลางคืนคาบเกี่ยวเข้าไปในกลางวัน  และทรงให้กลางวันคาบเกี่ยวเข้า ไปในกลางคืน และทรงให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์แก่มนุษย์ ทุกสิ่งโคจรไปตามวาระที่ได้กำหนดไว้ นั่นคือพระเจ้าของพวกเรา อำนาจการปกครองทั้งมวลเป็นสิทธิ์ของพระองค์

สิ่งที่พวกท่านวิงวอนขอจากสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮนั้น พวกมันมิได้ครอบครองสิ่งใด แม้แต่เยื่อหุ้มเมล็ดอินทผลัม หากพวกท่านวิงวอนขอจากพวกมัน พวกมันก็ไม่ได้ยินการวิงวอนของขอของพวกท่านเลย ถึงแม้พวกมันจะได้ยิน  พวกมันก็จะไม่ตอบรับพวกท่าน และในวันปรโลก พวกมันจะปฏิเสธการตั้งภาคีของพวกท่านและจะไม่มีผู้แจ้งเรื่องนี้แก่ท่านมุฮัมมัดศาสนทูตของพระองค์ได้  นอกจากอัลลอฮผู้ทรงรอบรู้ตระหนักยิ่ง

          โอ้หมู่ชนของฉันเอ๋ย พวกเราทั้งหลายซึ่งเป็นมนุษย์ผู้ขัดสนต้องการพึ่งอัลลอฮ ส่วนพระองค์นั้นทรงมั่งมีอย่างล้นเหลือ   ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ     หากพระองค์ทรงประสงค์  พระองค์ก็จะให้พวกท่านสูญสิ้นไป    และจะนำมาซึ่งกลุ่มชนใหม่   และในการนั้น  มิใช่เป็นการอยากสำหรับอัลลอฮเลย  และไม่มีผู้กระทำผิดคนใดที่จะแบกความผิดของผู้อื่นได้ และผู้ที่มีความผิดของตนอยู่แล้วจะถูกขอร้องให้ช่วยแบ่งเบาภาระจากผู้อื่น    เขาก็ไม่สามารถจะกระทำได้  แม้จะเป็นญาติใกล้ชิดสนิทสนมกันสักปานใดก็ตาม

          แท้จริงท่านมุฮัมมัดศาสนทูตของอัลลอฮเป็นเพียงผู้ตักเตือนบรรดาผู้ยำเกรงกลัวพระเจ้าของพวกเขาในสิ่งเร้นลับ    และพวกเขาดำรงไว้ซึ่งการละหมาด  และผู้ใดขัดเกลาตนเอง  แท้จริง  เขาก็ขัดเกลาเพื่อตัวของเขาเอง   และอัลลอฮเท่านั้น คือการกลับไปของมวลมนุษย์ในวันปรโลก

คนตาบอดกับคนตาดีนั้น ย่อมไม่เหมือนกัน และผู้ปฏิเสธกับผู้ศรัทธานั้นก็ไม่เหมือนกัน ความมืดกับแสงสว่างนั้นย่อมไม่เหมือนกัน  และศาสนาอื่นกับศาสนาอิสลามนั้น  ก็ไม่เหมือนกัน ที่ร่มเง่ากับที่ร้อนจัดย่อมไม่เหมือนกัน  และสัจธรรมกับความเท็จก็ไม่เหมือนกัน  คนเป็นกับคนตายนั้น  ย่อมไม่เหมือนกัน และผู้มีสติปัญญากับคนโง่เขล่านั้นก็ย่อมไม่เหมือนกัน  แท้จริงอัลลอฮทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ ได้ยินและได้ตอบรับ การเรียกร้องไปสู่สัจธรรมแห่งอิสลาม และท่านมุฮัมมัดศาสนทูตของพระองค์ไม่สามารถที่จะให้ผู้ที่อยู่ในหลุมฝังศพได้ยินได้   และท่านศาสนฑูตนั้นมิใช่ผู้อื่นใดนอกจากเป็นผู้ตักเตือนและสั่งสอนเท่านั้น

          ในฐานะที่ฉันเป็นคนหนึ่งในจำนวนบรรดามุสลิมผู้สืบทอดแนวทางของท่านมุฮัมมัดศาสนทูตท่านสุดท้ายของอัลลอฮ ซึ่งฉันได้เผยแผ่ศาสนาอิสลามแก่มนุษยชาติ ฉันไม่สามารถที่จะให้ผู้ที่จิตใจตายมารับทางนำแห่งอิสลามได้  และฉันมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นผู้ตักเตือนเท่านั้น

          แท้จริงอัลลอฮฺได้ส่งท่านมุฮัมมัด  ศาสนทูตท่านสุดท้ายของพระองค์  มาด้วยสัจธรรม  เป็นผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือนและไม่มีประชาชาติในอดีตเว้นแต่จะต้องมีผู้ที่ตักเตือนถูกส่งมายังพวกเขา     และฉันคือคนหนึ่งในหมู่ผู้ตักเตือนที่ทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนาอิสลามสำหรับพวกท่านในปัจจุบัน

และหากพวกเขาปฏิเสธท่านมุฮัมมัดศาสนทูตท่านสุดท้ายของพระองค์  แน่นอน  บรรดาผู้มีมาก่อนพวกเขาก็ได้ปฏิเสธมาก่อนแล้ว  บรรดาศาสนฑูตของพวกเขาได้นำหลักฐานอันชัดแจ้งมายังพวกเขาและด้วยคัมภีร์ต่าง  ๆ และคัมภีร์อันแจ่มจรัส  แล้วพระองค์ทรงได้ลงโทษบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา     ดั้งนั้นการปฏิเสธต่อพระองค์จะมีผลเป็นอย่างไรต่อพวกเขา ?

          ท่านมิได้พิจารนาดอกหรือว่า   แท้จริงอัลลอฮนั้นทรงได้ให้น้ำหลั่งลงมาจากฟากฟ้า  แล้วพระองค์ได้ให้พืชผลงอกเงยขึ้นมาด้วยมัน    สีสันของมันแตกต่างกันไป และในหมู่ภูเขาทั้งหลายแตกต่างกันออกไป  ขาวและแดงหลากหลายสี และสีดำสนิท และในหมู่มนุษย์สัตว์  และปศุสัตว์ก็มีหลากหลายสีเช่นเดียวกัน  แท้จริง  บรรดาผู้ที่มีความรู้จากปวงบ่าวของพระองค์เท่านั้นที่เกรงกลัวอัลลอฮ แท้จริง  อัลลอฮนั้นเป็นผู้ทรงอำนาจ  ผู้ทรงอภัยเสมอ

          แท้จริง   บรรดาผู้อ่านคัมภีร์ของอัลลอฮและดำรงละหมาด   และบริจาคสิ่งที่พระองค์ทรงได้ให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา โดยซ้อนเร้นและเปิดเผย  เพื่อหวังการค้าที่ที่ไม่ซบเซา และไม่ขาดทุน เพื่อพระองค์จะทรงตอบแทนรางวัลของพวกเขาอย่างครบถ้วน   และพระองค์จะทรงเพิ่มให้กับพวกเขา  จากความโปรดปรานของพระองค์ แท้จริง  พระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงชื่นชมในการภักดีของพวกเขา

          คัมภีร์อัลกุรอานที่อัลลอฮทรงได้ประทานให้แก่ท่านมุฮัมมัดศาสนฑูตท่านสุดท้ายของพระองค์นั้น  มันคือสัจธรรม เป็นการยืนยันในสิ่งที่ได้มีมาก่อน แท้จริงอัลลอฮเป็นผู้ทรงตระหนัก  ผู้ทรงเห็นต่อปวงบ่าวของพระองค์  และอัลลอฮทรงได้ให้คัมภีร์  เป็นมรดกสืบทอดมาแก่บรรดาผู้ที่พระองค์ทรงคัดเลือกแล้วจากปวงบ่าวของพระองค์  บางคนในหมู่พวกเขาอธรรมแก่ตัวเอง  และบางคนในหมู่พวกเขาเดินสายกลาง  และบางคนในหมู่พวกเขาเป็นผู้รุดหน้าในการทำความดีทั้งหลายด้วยอนุมัติของอัลลอฮ  นั่นคือความโปรดปรานอันใหญ่หลวง

สวนสวรรค์หลากหลายเป็นที่พำนักอันสถาพรพวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้น  ในสวนสวรรค์  พวกเขาจะได้ประดับด้วยกำไลทองและไข่มุก   และอาภรณ์ของพวกเขาในนั้นคือผ้าไหม และพวกเขากล่าวว่า  : 

“ บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ ซึ่งพระองค์ทรงขจัดความระดมทุกข์ออกจากเรา    แท้จริงพระเจ้าของเราเป็นผู้ทรงอภัยผู้ทรงชื่นชมซึ่งพระองค์ทรงให้เราได้พำนักในสถานที่พำนักอันสถาพร  ด้วยความโปรดปรานของพระองค์   ความเหน็ดเหนื่อยจะไม่ประสบแก่เราในนั้น   และความเบื่อหน่าย ก็จะไม่ประสบแก่เราในนั้น”

          ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกเขาจะได้รับการตอบแทนคือไฟนรกญะฮันนัม  จะไม่ถูกตัดสินลงโทษให้พวกเขาตาย  เพื่อที่พวกเขาจะได้ตาย และการลงโทษของมันก็จะไม่ถูกลดหย่อนแก่พวกเขา   เช่นนั้นแหละอัลลอฮจะทรงตอบแทนแก่ทุกผู้เณรคุณและปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ และพวกเขาจะตะโกนอยู่ในนรกนั้นว่า : 

“ข้าแต่พระเจ้าของเรา  ขอพระองค์ได้ทรงโปรดนำเราออกไป      (จากนรก) เพื่อเราจะได้ปฏิบัติการงานที่ดีอื่นจากที่เราได้ปฏิบัติไปแล้ว”

แล้วอัลลอฮทรงตรัสแก่ชาวนรกว่า : “ เรามิได้ให้อายุของพวกเจ้ายืนนานพอดอกหรือ     เพื่อผู้ที่ใคร่ครวญจะได้รำลึกถึงขอตักเตือน และได้มีผู้ตักเตือนมายังพวกเจ้าแล้ว ดังนั้น พวกเจ้าจงลิ้มรส (การลงโทษ ) เถิด  เพราะสำหรับบรรดาผู้อธรรมนั้นจะไม่มีผู้ช่วยเหลือ”

          แท้จริงอัลลอฮนั้นทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในทรวงอก  พระองค์คือผู้ทรงแต่งตั้งพวกเราให้เป็นตัวแทนรับช่วงในแผ่นดิน   ดังนั้น     ผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ  การปฏิเสธก็จะตกอยู่แก่เขา  และการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขาจะไม่เพิ่มสิ่งใดให้แก่พวกเขา ณ ที่พระเจ้าของพวกเขาเลย นอกจากความอัปยศอดสู และการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขาจะไม่เพิ่มสิ่งใดให้แก่พวกเขานอกจากความหายนะ

           ฉันขอถามบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาว่า  : พวกท่านไม่เห็นดอกหรือ  บรรดาเจว็ดที่พวกท่านได้ให้พวกมันมีหุ้นส่วนกับอัลลอฮ  ในการเคารพสักการะของพวกท่าน  และสิ่งที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์ จงแสดงให้ฉันเห็นซิว่าพวกมันได้สร้างอะไรในแผ่นดินนี้    หรือว่าพวกมันมีส่วนร่วมในชั้นฟ้าทั้งหลาย หรือว่าอัลลอฮพระผู้เป็นเจ้าทรงได้ให้คัมภีร์แก่พวกมัน  เปล่าดอก   บรรดาผู้อธรรมนั้น  ต่างก็มิได้มีสัญญาอะไรต่อกันนอกจากความหลอกหลวงเท่านั้น

          แท้จริงอัลลอฮทรงค้ำจุนชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินเอาไว้  มิให้มันหล่นลงมา และหากมันทั้งสองหล่นลงมา  ก็ไม่มีผู้ใดค้ำจุนมันทั้งสองไว้ได้นอกจากพระองค์  แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงขันติ  ผู้ทรงอภัยเสมอ

         และพวกเขาได้สาบานต่ออัลลอฮ์ด้วยการสาบานอย่างแข็งขันของพวกเขาว่า : 

“หากมีผู้ตักเตือนมายังพวกเขา  แน่นอนพวกเขาจะเป็นประชาชาติที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องยิ่ง (กว่าประชาชาติอื่น)"

         ครั้นเมื่อได้มีผู้ตักเตือนมายังพวกเขา  มันมิได้เพิ่มสิ่งใดแก่พวกเขานอกจากการเตลิดหนี       ด้วยการหยิ่งยโสในแผ่นดิน และการวางแผ่นชั่วต่อท่านมุฮัมมัดศาสนทูตของอัลลอฮ  และบรรดาผู้ศรัทธาซึ่งทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนาของพระองค์   แต่แผนชั่วนั้นจะไม่ห้อมล้อมผู้ใดนอกจากเจ้าของของมันเท่านั้น   พวกเขาจะคอยอะไรอีกเล่า นอกจากแนวทางของบรรพชนที่ถูกทำลายในอดีต   เพราะการปฏิเสธของพวกเขา  นั้นคือแนวทางของอัลลอฮ  ซึ่งจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางของอัลลอฮแต่ประการใด

          พวกเขาไม่ได้ท่องเที่ยวไปตามแผ่นดินดอกหรือ แล้วพิจารณาดูว่า  บั้นปลายของประชาชาติในยุคก่อนหน้าพวกเขานั้นเป็นเช่นใด?    เป็นที่ปรากฏว่าพวกเหล่านั้นมีพลังเข็มแข็งกว่าพวกเขา       และสำหรับอัลลอฮนั้น ไม่มีสิ่งใดในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินจะทำให้พระองค์หมดความสามารถไปได้   แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงอนุภาพเสมอ

          และหากอัลลอฮจะเอาโทษมนุษย์   ตามที่พวกเขาได้ขวนขวายเอาไว้แล้ว  พระองค์จะไม่ทรงให้เหลือไว้บนหน้าแผ่นดินซึ่งสัตว์โลกต่าง ๆ    แต่ว่าพระองค์ทรงประวิงเวลาให้พวกเขาจนถึงเวลาที่ถูกกำหนดไว้  และพระองค์ทรงผ่อนผันประวิงเวลาการลงโทษพวกเขาออกไปจนกระทั่งถึงวันแห่งการตอบแทนในวันปรโลก   ครั้นเมื่อวาระกำหนดของพวกเขามาถึง เมื่อนั้นแหละอัลลอฮจะทรงตอบแทนผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลายด้วยสวนสวรรค์  และพระองค์จะทรงบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาด้วยไฟนรก  และพวกเขาจะเป็นผู้พำนักอยู่ในนรกตลอดกาล.

แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเห็นปวงบ่าวของพระองค์เสมอ.
    
            

 

 

        ท่านจงกล่าวเถิด คำปฏิญาณว่า :   ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ , มุฮัมมัด รอซูลุลลอฮ์”

“                            ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และมุฮัมมัดเป็นศาสนฑูตของอัลลอฮ์”

     

 

 

 

 

แน่นอน ท่านจะพบกับความสันติสุขในโลกนี้ และท่านจะพ้นจากไฟนรก และจะได้เข้าสวนสวรรค์ในวันปรโลก

Always Be There - Maher Zain
00:00 / 00:00
bottom of page